Breaking News
Home / Tech Insight / ดีแทคยังคงมาตรการให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพื่อรักษาระยะห่าง ลดความหนาแน่น มุ่งดูแลพนักงานด้วยความใส่ใจ

ดีแทคยังคงมาตรการให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพื่อรักษาระยะห่าง ลดความหนาแน่น มุ่งดูแลพนักงานด้วยความใส่ใจ

ดีแทคประกาศให้พนักงานสามารถกลับเข้าทำงานได้ที่สำนักงานใหญ่ สำนักงานประจำภูมิภาค และศูนย์คอลเซ็นเตอร์รวมทั้ง 3 แห่งในกรุงเทพฯ และที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังคงคุมเข้มโดยกำหนดมาตรการการควบคุมดูแลความหนาแน่นในพื้นที่ทำงานให้มีจำนวนพนักงานเพียง 30% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของพนักงานเป็นสำคัญ โดยเริ่ม 1 มิถุนายนนี้ จะยังคงมีพนักงานจำนวน 1.000 คน อยู่ทำงานที่บ้านต่อไป จากเดิมที่ดีแทคมีพนักงานทำงานที่บ้านในช่วงประกาศกักตัวประมาณ 59% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัท ขณะที่ศูนย์บริการของดีแทคทั้งหมดสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ภายใต้มาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด

นางสาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคลบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การทำงานที่บ้านขนานใหญ่กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน  แน่นอนว่า มีหลายตำแหน่งงานที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ที่บ้าน แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา บอกเราว่า หลายตำแหน่งงานในส่วนงานสนับสนุนและหน่วยงานคอลล์เซ็นเตอร์ พนักงานสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าๆ กับที่สำนักงาน”

จากการตอบแบบสำรวจของพนักงานดีแทคเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา 84% บอกว่า รู้สึกมีแรงจูงใจในการทำงาน และ 82% รู้สึกสภาพแวดล้อมในการทำงานช่วยส่งเสริมให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ดีแทคเชื่อว่า นั่นเป็นผลมาจากตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดีแทคได้เตรียมพร้อมพนักงานทั้งทางด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในการทำงาน ได้แก่ เทคโนโลยีระบบคลาวด์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกัน และการปลูกฝัง Growth Mindset พร้อมไปกับ การพัฒนาให้พนักงานมีความสามารถในการบริหารภาระรับผิดชอบ (accountability) ในงานของตนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดอย่างชัดเจน

“หลายองค์กรที่ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ต้องปรับบทบาทของหัวหน้างานให้กลายเป็น ‘โค้ช’ แทนที่จะเป็น ‘นาย’ องค์กรเองควรใช้เวลานี้ปรับลดชั้นการบังคับบัญชา ขณะเดียวกัน ก็หันไปเพิ่มหน้าที่ความรับผิดชอบ ส่งเสริมศักยภาพของในตัวของพนักงานแต่ละคน วัฒนธรรมการทำงานใหม่ดังกล่าวจะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องมีหัวหน้างานมาออกคำสั่งหรือควบคุมใกล้ชิด และยังได้ประสิทธิภาพงานที่ดีขึ้นมากกว่าเดิมอีกด้วย” นางนาฎฤดีกล่าวเพิ่มเติม

การทำงานในความปกติใหม่ หรือ New Normal

เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ดีแทคจะจัดแบ่งพนักงานออกเป็น 3 กลุ่มลักษณะงาน ได้แก่ กลุ่มที่ 1 พนักงานที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้  กลุ่มที่ 2 พนักงานที่สามารถทำงานได้จากที่บ้านได้บางช่วงเวลา  และกลุ่มที่ 3  คือ พนักงานที่สามารถทำงานได้จากที่บ้านตลอดเวลา ทั้งนี้ เพื่อควบคุมดูแลให้ความหนาแน่นของพนักงานในพื้นที่สำนักงานอยู่น้อยกว่า 30% เป็นการช่วยลดโอกาสของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะเราตระหนักในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ในการบรรลุเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้พนักงาน 70% จากจำนวนพนักงานทั้งหมดสามารถทำงานที่บ้านได้นั้น  ดีแทคยังพบข้อจำกัดอีกหลายด้าน ได้แก่ กฏหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลระบุถึง การไม่นำข้อมูลที่สำคัญออกจากสำนักงานใหญ่ ทำให้พนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับข้อมูลสำคัญไม่สามารถทำงานที่บ้านได้

ที่ผ่านมา ดีแทคได้กระตุ้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน เพื่อสร้างทีมสปิริตในการทำงานเป็นทีม ผ่านแคมเปญ ‘ทำงานปลอดภัย สุขภาพดีอยู่ที่บ้าน’ (a Healthy@Work)  ที่ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มของโซเชี่ยลมีเดียให้พนักงานสร้างสรรค์คอนเท้นต์ใน Tik Tok  ในช่วงการพักเบรครับประทานอาหารกลางวัน หรือช่วงพักจากการประชุมทางวิดีโอ มีพนักงานมากกว่า 600 คนเข้ามาร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ดีแทคยังได้เพิ่มความถี่ในการประชุมของพนักงานผ่านการถ่ายทอดสดบน Workplace by Facebook เป็นประจำสองครั้งต่อเดือน และยังจัดให้ทีมพนักงานที่ทำงานในหน่วยงานต่างๆนอกสำนักงาน เช่น พนักงานที่ประจำศูนย์บริการ พนักงานคอลเซ็นเตอร์ ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานใน New Normal ให้กับพนักงานคนอื่นๆได้ทราบไปพร้อมกัน

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การจัดการองค์กรและมาตรการดูแลพนักงานของดีแทคในสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ที่ https://www.dtac.co.th/covid-19.html

Check Also

Use Case การใช้ AI ในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคอุตสาหกรรม สรุปจากงาน “Navigating AI Frontier”

ทีซีซี เทคโนโลยี (TCCtech) และเดลล์ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) (Dell Technologies) ร่วมกันจัดเวทีให้ความรู้ ภายใต้หัวข้อ “Navigating AI Frontier” โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบัน IMC ผู้บริหารของ TCCtech และ เดลล์ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์​การนำ AI ไปใช้งานในหลายอุตสาหกรรม อัพเดทผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีรวมถึงแนะนำโซลูชันที่ตอบโจทย์เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพของการบริหารจัดการธุรกิจ