Breaking News
Home / Industries / ไมโครชิพ ขอแนะนำ IC ตรวจวัดไฟฟ้า (Power Monitoring) แบบ dual-mode เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบให้ถึงขีดสุด

ไมโครชิพ ขอแนะนำ IC ตรวจวัดไฟฟ้า (Power Monitoring) แบบ dual-mode เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบให้ถึงขีดสุด

Microchip

IC ที่วัดได้ทั้ง AC และ DC ในอุปกรณ์เดียว ช่วยตรวจวัดและเก็บบันทึกข้อมูลทางไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟทั้งกระแสสลับและกระแสตรงในแบบเรียลไทม์ ด้วยความแม่นยำระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

การตรวจวัดค่าพลังงานไฟฟ้าในระบบต่าง ๆ ที่ใช้ไฟได้ทั้ง AC และ DC นั้น โดยทั่วไปแล้วต้องใช้ IC หลายตัว เพื่อความแม่นยำและประสิทธิภาพที่เป็นเลิศ ปัจจุบันมีระบบหลายประเภทที่ใช้ไฟทั้งสองแบบเพื่อรับประกันการทำงานที่ปลอดภัยและต่อเนื่อง อาทิ โซลาร์อินเวอร์เตอร์ สมาร์ทไลท์ติ้ง และคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ โดยใช้ AC เป็นแหล่งจ่ายไฟหลัก และ DC เป็นแหล่งจ่ายไฟสำรอง หรือสลับกัน

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้การพัฒนาระบบเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จำกัด จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ IC สุดยืดหยุ่นที่ตรวจวัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้ทั้ง AC และ DC (dual-mode) พร้อมมอบความแม่นยำระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม ด้วยค่าความผิดพลาดเพียง 0.1% ในอัตราส่วน 4000:1

นอกจากนี้ ยังมีการรวมฟีเจอร์คำนวณค่าพลังงานไฟฟ้าและการตรวจสอบสถานะของไฟฟ้าไว้ในอุปกรณ์ IC ตัวเดียว ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านวัสดุอุปกรณ์ และประหยัดเวลาในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.microchip.com/MCP39F511A

MCP39F511A เป็นอุปกรณ์ IC ที่รวมเอาประสิทธิภาพการตรวจวัดทางไฟฟ้าไว้ในระดับสูง เพื่อตอบโจทย์บรรดานักออกแบบระบบที่ต้องการวัดค่าไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้การปรับเทียบมาตรฐานการแปลงไฟฟ้า (calibration) นั้นง่ายขึ้น และเพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความแม่นยำส่วนใหญ่ อุปกรณ์ MCP39F511A จึงมาพร้อม Analog-to-Digital Converters (ADCs) แบบ delta-sigma ขนาด 24 บิต จำนวนสองตัว ที่มีค่า signal-to-noise ratio plus distortion (SINAD) ที่ 94.5 dB

ทั้งยังประกอบด้วยตัวคำนวณการใช้ไฟขนาด 16 บิต จำนวนหนึ่งตัว MCP39F511A เหมาะสำหรับการใช้งานกับสินค้าเพื่อผู้บริโภคหลายประเภท ตลอดจนอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) และการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากสามารถรับทราบประเภทของแหล่งจ่ายไฟฟ้าและสลับสับเปลี่ยนระหว่าง AC และ DC ได้โดยอัตโนมัติ จึงให้ผลการวัดที่แม่นยำมากขึ้น

นอกจากนี้ อุปกรณ์ IC ตัวนี้ยังช่วยให้นักพัฒนาสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ด้วย on-chip EEPROM ที่มีการบันทึกข้อมูลทางไฟฟ้าที่สำคัญ ๆ ทั้งยังประกอบด้วยวงจรแรงดันอ้างอิง low-drift voltage reference และมีวงจรออสซิลเลเตอร์ภายในตัว (internal oscillator) เพื่อลดต้นทุนการติดตั้งดำเนินการ

นอกจากนี้ MCP39F511A ยังมีข้อดีอีกมากมาย ได้แก่ ความยืดหยุ่นและใช้งานง่าย ทั้งยังสามารถคำนวณค่าพลังงานไฟฟ้ามาตรฐานแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวัดค่าของกำลังไฟฟ้า ทั้งกำลังไฟฟ้าจริง กำลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ และกำลังไฟฟ้าปรากฏ (active, reactive and apparent power), การวัดค่าพลังงานจริงและพลังงานเสมือน (active and reactive energy), การวัดค่าแรงดันและกระแสไฟฟ้าแบบ root-mean-square (RMS), ค่าความถี่สาย (line frequency) และค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า (power factor) ซึ่งช่วยให้นักออกแบบสามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการตรวจวัดพลังงานไฟฟ้าที่มีความแม่นยำสูงเข้าในแอปพลิเคชั่นการใช้งานขั้นปลายได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเวลามากมายไปกับการพัฒนาเฟิร์มแวร์

และเพื่อช่วยให้การพัฒนาง่ายยิ่งขึ้น MCP39F511A จึงประกอบด้วยฟีเจอร์ขั้นสูงต่าง ๆ อาทิ การบันทึกและการโหลดข้อมูลอัตโนมัติ (auto-save and auto-load) ของปริมาณไฟฟ้าเข้าและออกจาก EEPROM ที่กำลังไฟฟ้าสูญเสียหรือกำลังไฟฟ้าเริ่มต้น (power loss or start) เพื่อรับประกันว่าผลการวัดจะไม่สูญหาย หากเกิดไฟตกหรือไฟดับ นอกจากนี้ การตรวจสอบสถานะของไฟฟ้าภายใต้สภาวการณ์ที่หลากหลายยังช่วยยกระดับการบำรุงรักษาระบบป้องกัน และช่วยให้นักพัฒนาจัดการการใช้ไฟฟ้าได้ดีขึ้น

การตรวจวัดค่าพลังงานไฟฟ้ามีความแพร่หลายมากขึ้นในหลาย ๆ ตลาด อาทิ สมาร์ทซิตี้ และ สมาร์ทโฮม เนื่องจากนักพัฒนาต่างต้องการตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงการใช้พลังงาน” ไบรอัน ลิดเดียร์ด รองประธานแผนก Mixed-signal and Linear Products Division ของไมโครชิพ กล่าว “MCP39F511A นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่ง่าย และมอบความสามารถในการตรวจวัดพลังงานไฟฟ้าทั้ง AC และ DC ด้วยความแม่นยำระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม” 

เครื่องมือสนับสนุนการพัฒนา

อุปกรณ์นี้รองรับการทำงานร่วมกับ MCP39F511A Power Monitor Demonstration Board (ADM00667) ซึ่งเป็นระบบตรวจวัดพลังงานและไฟฟ้าแบบ single-phase นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังคำนวณและแสดงค่า active power, reactive power, RMS current, RMS voltage, active energy (ทั้ง import และ export) และ four-quadrant reactive energy อีกทั้งเชื่อมต่อกับ “Power Monitor Utility Software” ได้ง่ายผ่านทาง USB เพื่อการควบคุมอัตโนมัติ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ประเมินการตั้งค่าคอนฟิกระบบทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

สำหรับการสั่งซื้อในปริมาณมาก ทางศูนย์ Application Center of Excellence ของไมโครชิพ นำเสนออุปกรณ์เฟิร์มแวร์ที่ปรับตามความต้องการด้วยการเทียบมาตรฐานฮาร์ดแวร์ของลูกค้า ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลาในการปรับเทียบมาตรฐาน 

การวางจำหน่าย

MCP39F511A รับสั่งผลิตปริมาณมากที่ 10,000 ชิ้น ขณะที่บอร์ดพัฒนา MCP39F511A Power Monitor Demonstration Board (ADM00667) มีจำหน่ายแล้วเช่นกัน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อพนักงานขายหรือตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกที่ได้รับแต่งตั้งจากไมโครชิพ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของไมโครชิพ และสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้ที่ microchipDIRECT ซึ่งเป็นช่องทางบริการอย่างเต็มรูปแบบของไมโครชิพ หรือติดต่อตัวแทนจัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจากไมโครชิพ

Check Also

Use Case การใช้ AI ในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคอุตสาหกรรม สรุปจากงาน “Navigating AI Frontier”

ทีซีซี เทคโนโลยี (TCCtech) และเดลล์ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) (Dell Technologies) ร่วมกันจัดเวทีให้ความรู้ ภายใต้หัวข้อ “Navigating AI Frontier” โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบัน IMC ผู้บริหารของ TCCtech และ เดลล์ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์​การนำ AI ไปใช้งานในหลายอุตสาหกรรม อัพเดทผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีรวมถึงแนะนำโซลูชันที่ตอบโจทย์เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพของการบริหารจัดการธุรกิจ