ตลอดปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่หลายองค์กรต่างเดินหน้ารับมือกับผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศ โดยมีบริษัทมากกว่า 4,000 แห่งทั่วโลกให้คำมั่นสัญญาว่าจะบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน ขณะที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้คิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในการนำเสนอคุณค่าที่แตกต่าง เพื่อสนับสนุนองค์กรต่างๆ ไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจควบคู่กันไปด้วยดิจิทัลโซลูชั่นแบบครบวงจร
นายสเตฟาน นูสส์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมา และลาว ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยว่า “เราขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ด้วยนวัตกรรมโซลูชั่นแบบบูรณาการสำหรับบ้าน อาคาร ศูนย์ข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรม ด้วยโซลูชั่นทั้งฮาร์ดแวร์ คืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันได้ และซอฟต์แวร์ เพื่อใช้ในการมอนิเตอร์ และตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทำให้เรามีอำนาจในการควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และคาดการณ์การซ่อมบำรุง รวมถึงการลดคาร์บอน และก๊าซเรือนกระจก โดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนคือการสร้างความยั่งยืนให้กับโลก และธุรกิจ การเปิดตัว Innovation Hub Bangkok ในวันนี้ นับเป็น Innovation Hub ที่รวมโซลูชั่นด้านดิจิทัล ตอบโจทย์ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อการทรานส์ฟอร์มสู่ระบบดิจิทัลให้กับธุรกิจที่ต้องการมุ่งไปสู่ความยั่งยืน”
Innovation Hub Bangkok ตั้งขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในกรุงเทพฯ ถนนรัชดาภิเษก โดยจัดแสดงโซลูชั่นสำหรับแต่ละอุตสาหกรรมต่างๆ ครอบคลุม ที่อยู่อาศัย อาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบกริดและอินฟาสตรัคเจอร์ต่างๆ ดังนี้
Industries of the Future เทคโนโลยีผสานรวมระหว่าง IT และ OT เข้าด้วยกัน มอบความยั่งยืนและยืดหยุ่นผ่านระบบอัตโนมัติ บนแพลตฟอร์มเปิด เน้นซอฟต์แวร์เป็นศูนย์กลาง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ซึ่งมีตัวอย่างตัวต้นแบบการใช้งานโดยโรงงานของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งใช้โซลูชันและบริการ EcoStruxure™ รวมถึงเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ Modicon, Foxboro, Triconex, TeSys, Altivar และ Harmony รวมถึงซอฟต์แวร์ AVEVA
Data Centers of the Future นำเสนอโซลูชั่นตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ไปจนถึงไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมรองรับการทำงานในรูปแบบเอดจ์คอมพิวติ้ง พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ ที่ช่วยรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที เช่น การมอนิเตอร์ การควบคุมระยะไกล การควบคุมความเย็น และการไหลเวียนของอากาศ รวมถึงซอฟต์แวร์เฉพาะของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์ และเครือข่ายได้ทั้งหมด ช่วยรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ และลดต้นทุนทางธุรกิจ
Buildings of the Future มาพร้อมเทคโนโลยีมาตรฐาน KNX โดยสามารถเชื่อมต่อกับโซลูชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับอาคารได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้การออกแบบอาคารในการรองรับการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ เช่น อาคารสำนักงาน ที่เน้นเรื่องการใช้งานและประหยัดพลังงานเป็นหลัก มีความยืดหยุ่น ให้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ค่าพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งในโซนออฟฟิศและส่วนกลางได้อย่างครบวงจรในหนึ่งเดียว
นอกจากนี้ โซลูชั่นสำหรับอาคารของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจโรงแรม เน้นที่ความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดีของแขกที่เข้ามาพัก ขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล สามารถใช้โซลูชั่นจัดการอาคารที่ออกแบบมาเพื่อเน้นความปลอดภัยและความอุ่นใจของคนไข้ สามารถผสานรวมกับสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์อื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องปฏิบัติการ ห้องผ่าตัด ห้องพักผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถวิเคราะห์และควบคุมการทำงานของระบบในแต่ละห้องได้ตามความต้องการ
Homes of the Future แสดงนวัตกรรมสำหรับบ้านของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค โซลูชั่นโฮมออโตเมชั่น เป้าหมายคือการทำให้บ้านมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากโซลูชันพลังงานในบ้านที่รองรับอนาคตและปรับขนาดได้ ตามความต้องการของผู้ใช้งานในบ้าน ช่วยตรวจสอบ ควบคุม และทำงานอัตโนมัติ พร้อมช่วยประหยัดการใช้พลังงาน พร้อมกันนี้ ยังมีโซนนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สำหรับบ้าน อาทิ สวิตช์ไฟ เต้ารับ เซอร์กิตเบรกเกอร์ ที่มาพร้อมความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก
Grids of the Future โซลูชั่นช่วยในการบริหารจัดการพลังงาน และกริดอัจฉริยะในแบบครบวงจร ทั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังมีมุมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด SM Airset สวิตช์เกียร์ (Switchgear) รุ่นใหม่ล่าสุดแบบโมดูลาร์ ไร้สาร SF6 ที่ส่งผลต่อสภาวะโลกร้อน
“นอกจากนี้ เรายังพร้อมให้คำปรึกษาในการปรับใช้ระบบการจัดการพลังงานและระบบดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่างๆ ในการดำเนินงานขององค์กร ปัจจุบัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีพนักงานมากกว่า 130,000 คนทั่วโลก ในประเทศไทยมีพนักงานกว่า 1,500 คน ที่พร้อมให้การต้อนรับองค์กรต่างๆ ในการเข้าเยี่ยมชม Innovation Hub Bangkok เพื่อเรียนรู้นัวตกรรม โซลูชั่นด้านดิจิทัลเพื่อนำไปปรับใช้ในองค์กร เพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป” นายสเตฟาน กล่าวสรุป