Breaking News
Home / Tech Insight / “MSC” เผยรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 7,974 ล้านบาท กำไรสุทธิ 283 ล้านบาท ในปี 2561

“MSC” เผยรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 7,974 ล้านบาท กำไรสุทธิ 283 ล้านบาท ในปี 2561

Metro Systems Corporation

บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “MSC” ก่อตั้งเมื่อปี 2529 ดำเนินธุรกิจการบริการด้านไอทีแบบครบวงจรมาเป็นเวลากว่า 33 ปี โดยมีกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท ประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจดิจิตอลโซลูชั่นส์ (Digital Solutions Group – DSG) 2.กลุ่มธุรกิจดิจิตอลพริ้นติ้ง (Digital Printing Group – DPG) 3.กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์โซลูชั่นส์ (Solutions Integration Group – SIG) ในการร่วมกันช่วยให้องค์กรของลูกค้าบริหารธุรกิจด้วยความต่อเนื่องในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล

ในปี 2561 นายอรุณ ต่อเอกบัณฑิต กรรมการบริหาร ได้เผยผลประกอบการปี 2561 ว่าบริษัท มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 7,974 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 7.8% และมีกำไรสุทธิ 283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48 ล้านบาท คิดเป็น 20.5% บริษัทฯ และบริษัทย่อย ยังมีสินทรัพย์รวม 3,510 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,648 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 1,862 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างรายได้ของ “MSC” มาจากกลุ่มสินค้าด้านฮาร์ดแวร์ 36%, ซอฟต์แวร์โซลูชั่นและบริการ 40% และดิจิตอลพริ้นติ้ง 24% ตามลำดับ

โดยในปี 2562 บริษัทได้วางกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ธุรกิจบริการเพื่อตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้นำด้านไอทีไว้ 5 ด้าน ได้แก่

1.Digital Transformation Excellences บริษัทมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจตามแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ คลาวด์คอมพิ้วติ้ง บิ๊กดาต้า ซีเคียวริตี้ ดิจิตอลพริ้นติ้ง ให้สอดคล้องกับยุคดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในปัจจุบันร่วมไปถึงสามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

2.Product & Service Excellence การเป็นผู้นำด้านจัดจำหน่ายสินค้าและบริการด้านไอที รวมไปถึงการเป็นองค์กรที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เรามุ่งคัดสรรสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ จากตราสินค้าชั้นนำระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์โซลูชั่นส์ เพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้รองรับกับทุกความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิตอล อีกทั้งการให้บริการแบบครบวงจร (Total Solution Service Provider) เพื่อมอบการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

3. People Excellence กลยุทธ์การสร้างศักยภาพด้านทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาและยกระดับ ทักษะความรู้ ความสามารถของบุคคลากรให้เป็นมืออาชีพ อีกทั้งสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีภายในองค์กร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

4. Customer Retention Excellence กลยุทธ์การรักษาฐานลูกค้า กลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นลูกค้าภาคเอกชนเป็นหลัก บริษัทมีการดูแลและประเมินความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์ ปรับปรุง ทั้งด้านการหาสินค้า และการให้การบริการที่ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

5.Collaboration Excellence กลยุทธ์การขยายเครือข่ายและประสานความร่วมมือที่ดีกับคู่ค้า ลูกค้า นักลงทุน พนักงาน ด้วยการยึดหลักการประกอบธุรกิจควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งด้านจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบวัฒนธรรมหลักขององค์กร (METRO Way) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ นายกิตติ เตชะทวีกิจกุล รองประธานกรรมการ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากการดำเนินธุรกิจเพื่อให้มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทยังได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการคำนึงถึงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดกรอบนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในแต่ละด้านไว้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน ตลอดจนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รวมถึงการเน้นย้ำในวัฒนธรรมองค์กรให้กับพนักงานได้ประพฤติปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อนำพาองค์ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

Check Also

TERA เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Gen3 ที่สุดแห่งบริการคลาวด์โดยคนไทย พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้

บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ “TERA” เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Generation ที่ 3 (T.Cloud Gen3) ที่สุดแห่งบริการคลาวด์แบบอัจฉริยะของคนไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่องค์กรภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ต่อยอดสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจอย่างแท้จริง