Breaking News
Home / Tech Insight / เราจะคาดหวังอะไรได้บ้างจากการนำเครือข่าย 5G มาใช้ในที่ทำงาน

เราจะคาดหวังอะไรได้บ้างจากการนำเครือข่าย 5G มาใช้ในที่ทำงาน

สำนักงานแบบ 5G จะเปิดโอกาสมากมายแก่ธุรกิจ ซึ่งรวมไปถึงอุปสรรคที่ร้ายแรงด้วย ซึ่งในบทความนี้ ทาง Ricoh ได้มองถึงผลกระทบของเครือข่าย 5G ที่จะมีต่อระบบออโต้เมชั่น, IoT, โครงสร้างพื้นฐาน, และระบบความปลอดภัย รวมทั้งธุรกิจต่างๆ ควรเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้อย่างไรบ้าง

5G นั้นอ้างว่าสามารถทำให้อินเทอร์เน็ตเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ถึง 100 เท่า รวมทั้งบริเวณครอบคลุมสัญญาณก็จะกว้างขวางขึ้น มีความเสถียรมากขึ้น และสามารถรองรับจำนวนอุปกรณ์ได้มากกว่าเครือข่าย 4G ในตอนนี้ ซึ่งบางประเทศอย่างเช่นเกาหลีใต้ ก็ได้เริ่มเปิดใช้งานเครือข่าย 5G ในบางพื้นที่แล้ว ซึ่งทาง Ericsson ทำนายไว้ว่า ภายในปี 2024 จะมีประชากรโลกมากกว่า 65% ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตระดับ 5G เรียกได้ว่าแม้ 5G จะยังไม่พร้อมให้ใช้ตอนนี้ แต่เวลาที่มันมาแล้ว ก็จะมาเร็วแบบชนิดไม่ทันตั้งตัว

ประโยชน์บางอย่างที่จะได้รับนั้นก็มองภาพได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอลแบบ HD โดยแทบไม่มีดีเลย์หรือเป็น Zero-Latency หรือแม้แต่การประสานงานร่วมกันผ่านภาพและวิดีโอแบบ HD การดาวน์โหลดอัพโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ที่แทบจะเสร็จในทันที เป็นต้น

แบนด์วิธที่เพิ่มขึ้นยังเปิดให้มีอุปกรณ์หลายเครื่องมากขึ้นที่เชื่อมต่อและแบ่งปันข้อมูลบนเครือข่ายเดียวกันได้ ซึ่งสำนักงานหลายแห่งได้เริ่มนำเทคโนโลยี IoT อย่างง่ายมาใช้บ้างแล้ว เช่น ระบบควบคุมแสงสว่างและความร้อน โซลูชั่นนำทางแบบอินเตอร์แอคทีฟ และเซ็นเซอร์ตรวจจับการใช้งานแต่ละห้อง ซึ่ง 5G จะสามารถดึงศักยภาพของระบบ IoT เหล่านี้ได้ถึงขีดสุด

ดังนั้น ธุรกิจทั้งหลายควรเตรียมพร้อมสถานที่ปฏิบัติงานเพื่อรองรับ 5G อย่างไรบ้าง? เราสามารถทำอะไรได้ตอนนี้เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดจากเทคโนโลยีดังกล่าวเมื่อถึงเวลาที่เข้ามาจริง? ในบทความนี้ Ricoh จะอธิบายถึงผลกระทบจาก 5G ที่จะมีต่อทั้งด้านออโตเมชั่น, IoT, ระบบความปลอดภัย, และโครงสร้างพื้นฐานในสำนักงานดังต่อไปนี้

ระบบออโตเมชั่น

ระบบออโตเมชั่นพื้นฐานส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นระบบที่ทำงานผ่านคลาวด์ ดังนั้น 5G จึงสามารถผลักดันให้ระบบออโตเมชั่นแบบ Cloud-based ทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น และส่งต่อข้อมูลได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ทำให้เร่งความเร็วในการทำงานแบบอัตโนมัติให้เสร็จเร็วขึ้น และรันโปรเซสงานอัตโนมัติคู่ขนานพร้อมกันได้มากกว่าเดิม

สำหรับโปรเซสงานที่ซับซ้อนหรือต้องการการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เช่น งานที่ต้องใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งนั้น จะสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วมากยิ่งขึ้น เป็นการเร่งความเร็วของกระบวนการเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้ยกระดับประสิทธิภาพของโปรแกรมอัตโนมัติที่สัมผัสกับลูกค้าโดยตรงอย่างเช่น แชทบอท หรือโปรเซสงานภายในอย่างซอฟต์แวร์ด้านทรัพยากรบุคคลหรือการสรรหาบุคลากร

IoT

ด้วยเหตุที่ IoT ต้องการแบนด์วิธมากเกินกว่าที่ปัจจุบันมีให้ได้ โดยยังมีอุปกรณ์ IoT ที่มีการตั้งความหวังไว้มากอย่างเช่น รถยนต์ไร้คนขับ ที่ยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายภายใต้เครือข่าย 4G ดังนั้นเมื่อ5G ก้าวมาถึง เราถึงจะได้เห็นศักยภาพของ IoT ที่แท้จริง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญของ IoT คือ การที่ 5G จะเข้ามาปลดล็อกความสามารถของแต่ละอุปกรณ์ในการส่งต่อข้อมูลปริมาณมหาศาลกลับมายังศูนย์เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้วิเคราะห์จากศูนย์กลางได้ การแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกร่วมกับลูกค้าทำให้พวกเราตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น หรือการแบ่งปันข้อมูลร่วมกับผู้ให้บริการอย่างเช่น บริษัทด้านสาธารณูปโภคทั้งหลายก็จะช่วยให้ปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้บริษัททั้งหลายเติบโตได้อย่างยั่งยืน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไปพร้อมกัน

โครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

การที่จะทำให้ธุรกิจทั้งหลายได้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตระดับ 5G อย่างเต็มที่นั้น อุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัยบางอย่างก็จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นว่าอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานในสำนักงานปัจจุบันจะสามารถทำงานเข้ากันได้หรือไม่ได้กับ 5G อย่างไรก็ตาม แต่ก็ต้องมีบางอุปกรณ์ที่แม้ทำงานได้บ้าง แต่ก็คงไม่สามารถได้ประโยชน์จากเน็ตเวิร์กแบบใหม่ได้เต็มที่

ตอนนี้ยังมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก 5G ได้อย่างแท้จริง ข้อมูลนี้น่าจะพร้อมเมื่อมีการนำ 5G มาให้ใช้ในวงกว้างแล้ว ซึ่งเหล่าผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีคงต้องระลึกถึงจุดนี้ไว้ในอนาคต ถ้ายังต้องการจะเป็นผู้นำรายแรกๆ ที่บุกเบิกการใช้ประโยชนืจากเน็ตเวิร์กใหม่นี้

ด้านความปลอดภัย

ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นเพิ่มขึ้นตามปริมาณการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยอุปกรณ์ทั้งหลายจะสามารถโดนแฮ็กได้ทันทีเมื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแล้ว ซึ่ง 5G จะทำให้ผู้โจมตีสามารถโจมตีในรูปแบบที่ทรงพลังหรือซับซ้อนกว่าที่เคยเกิดขึ้นได้ ซึ่งถ้าพวกเขาสามารถเข้าถึงระบบของเหยื่อได้แล้ว ก็จะถลุงข้อมูลออกมาได้ด้วยความเร็วอย่างเหลือเชื่อ 5G ยังทำให้พวกเราดาวน์โหลดไฟล์ภาพยนตร์ระดับ HD ได้ภายในไม่กี่วินาที ก็ต้องทำให้บางคนสามารถดาวน์โหลดซอร์สโค้ดหรือข้อมูลผลิตภัณฑ์ของคุณด้วยความเร็วไม่แพ้กันทีมงานด้านวามปลอดภัยจึงจำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเข้ามาของ 5G พร้อมกับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นพร้อมกัน

ถึงเวลาเตรียมพร้อมสถานที่ปฏิบัติงานสำหรับ 5G แล้ว

กล่าวโดยสรุป 5G จะให้โอกาสมากมายแก่ธุรกิจต่างๆโดยความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้นนี้จะทำให้เกิดโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ และรูปแบบการทำงานที่ไม่เคยมีมาก่อนเหมือนสมัยที่เพิ่งมีเทคโนโลยีบรอดแบนด์เข้ามา ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ต่างเห็นตรงกันว่า ผลกระทบของ 5Gมีแนวโน้มที่จะยิ่งใหญ่เกินกว่าจะคาดเดาได้

ที่มา:  https://insights.ricoh.co.uk/simplifying-technology/5g-workplace-predictions

Check Also

TERA เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Gen3 ที่สุดแห่งบริการคลาวด์โดยคนไทย พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้

บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ “TERA” เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Generation ที่ 3 (T.Cloud Gen3) ที่สุดแห่งบริการคลาวด์แบบอัจฉริยะของคนไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่องค์กรภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ต่อยอดสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจอย่างแท้จริง