บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค รายงานผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 รายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย ลดลง จากปีก่อน และลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ EBITDA ยังคงเติบโต และมีกำไรจากผลของการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ไตรมาสที่สองเป็นช่วงที่มีการระบาดหนักของโควิด-19 รวมถึงการปิดร้านค้านานกว่าหนึ่งเดือน วิกฤติที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้จากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว แรงงานต่างด้าว รายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติและลูกค้าใหม่ รวมถึงการใช้จ่ายของลูกค้าโดยรวม สถานการณ์ดังกล่าว นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าในแง่ของการใช้ข้อมูลและการใช้ช่องทางดิจิทัลเราให้ความสำคัญในการเชื่อมโยงผู้คนผ่านเครือข่ายที่เชื่อถือได้ของเราและมอบข้อเสนอที่สอดคล้องความต้องการในชีวิตวิถีใหม่พร้อมทั้งช่วยเหลือและสนับสนุนสังคมในวงกว้างผ่านโครงการบรรเทาทุกข์ต่างๆ เรายังคงดำเนินงานได้ 100% ตลอดช่วงวิกฤตที่เกิดขึ้น และเรายังคงมุ่งมั่นในจุดยืน ที่จะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล”
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/63 ดีแทคมีฐานลูกค้าจำนวนทั้งสิ้น 18.8 ล้านราย ลดลง 835,000 รายในไตรมาสนี้ จากผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 การสูญเสียลูกค้านั้นมาจากจำนวนลูกค้าใหม่ที่ลดลงจากสถานการณ์ ซึ่งสืบเนื่องมาจากการปิดให้บริการร้านค้า จำนวนลูกค้าที่ใช้บริการปัจจุบันในแต่ละเดือนเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 เป็นผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายในไตรมาส 2/63 ลดลงร้อยละ 4.5 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 3.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขณะที่รายได้จากค่าบริการหลักในไตรมาส 2/63 ลดลงร้อยละ 3.3 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA เติบโตขึ้นร้อยละ 5.1 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 4.2 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/63 มีมูลค่าทั้งสิ้น 1.9 พันล้านบาท ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับ EBITDA
นายดิลิป ปาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้น ทำให้รายได้ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เราจัดการการเติบโตของกำไรในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการต้นทุนของเรา ด้วยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเติบโต เรายังคงรักษาความต่อเนื่อง ในการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนสำหรับเวลาที่เหลือของปี ขณะที่เรายังคงเคร่งครัดปฏิบัติตามแนวทางหลักในการให้บริการที่ขับเคลื่อนด้วยมูลค่าและประสบการณ์เครือข่ายที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา”
แนวโน้มการเติบโตในครึ่งปีหลังยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจ ดีแทคได้ปรับการให้แนวโน้มใหม่สำหรับปี 2563 ซึ่งก็คือการเติบโตของรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายในปี 2563 ที่ตัวเลขติดลบหลักเดียวระดับต่ำEBITDA อยู่ที่จำนวนใกล้เคียงกับปี 2562 และค่าใช้จ่ายในการลงทุนอยู่ที่ 8-10 พันล้านบาท
ตัวเลขสำคัญทางการเงินในไตรมาส 2/63
• มีรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่า IC มูลค่า 1.46 หมื่นล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.5 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
• EBITDA อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากไตรมาสก่อนและร้อยละ 4.2 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
• EBITDA margin (normalized) อยู่ที่ร้อยละ 48.8
• กำไรสุทธิ อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท