วีเอ็มแวร์ (NYSE: VMW) ประกาศความก้าวหน้าล่าสุดของพอร์ทโฟลิโอ VMware Cloud ที่จะช่วยให้องค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเข้าถึงนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนโมบิลิตี้และสร้างความคล่องตัวให้กับองค์กร
สิ่งนี้จะช่วยให้ธุรกิจเสริมสร้างความแข็งแกร่งเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของภูมิภาค ความก้าวหน้าล่าสุดของไฮบริดคลาวด์ร่วมกับความสามารถใหม่ของ VMware Cloud บน AWS, Azure VMware Solution รุ่นใหม่ VMware Cloud บน Dell EMC และความพร้อมใช้งานทั่วไปของ Google Cloud VMware Engine ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่างเข้าถึงบริการคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและมีทางเลือกพร้อมยกระดับนวัตกรรม มีความคล่องตัวและความยืดหยุ่นทางธุรกิจ
เศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าสูงถึง 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในบี 2562 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 300 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 ในขณะที่ส่วนแบ่งดิจิทัลในภูมิภาคนั้นแคบลง
จากรายงานล่าสุดของ Asia Cloud Computing Association (ACCA) ระบุว่าความคืบหน้าเกี่ยวกับความพร้อมของคลาวด์นั้นได้ชะลอตัวลง ความต้องการสำหรับธุรกิจในการเปลี่ยนแปลงสู่การทำงานระยะไกลและการกระจายของทีมงานเป็นสัญญานให้เห็นถึงความซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายทั้ง โครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือด้านการจัดการ และในส่วนของกระบวนการ สำหรับองค์กรที่จะประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ องค์กรต้องการรากฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งพร้อมด้วยคลาวด์ที่เป็นแกนหลักเพื่อเร่งเปิดใช้นวัตกรรมทางธุรกิจและการเติบโตของเศรษฐกิจที่หลากหลายในภูมิภาค
การปรับปรุงใหม่ของพอร์ทโฟลิโอ VMware Cloud จะให้ความยืดหยุ่นแก่องค์กรและทางเลือกในการนำประโยชน์จากคลาวด์มาใช้ให้เต็มศักยภาพ ขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลและสร้างความยืดหยุ่นเชิงธุรกิจในยุคที่องค์กรถูกขับเคลื่อนด้วยแอปและเศรษฐกิจแบบ mobile-first
VMware Cloud on AWS นำเสนอนวัตกรรมใหม่ สร้างคลาวด์อีโคโนมีที่ดีกว่า: บริการพับลิคคลาวด์ของ VMware สำหรับที่ใช้กับเวิร์คโหลดที่ทำงานด้วย vSphere ความสามารถใหม่ที่อัปเดตให้กับ VMware Cloud on AWS ได้แก่ i3en instance รุ่นล่าสุด 2-Host SDDC Configuration บริการการจัดการคลาวด์ multi-tenant ซึ่งความสามารถที่อัปเดตใหม่เหล่านี้จะช่วยองค์กรธุรกิจทุกขนาดสามารถเข้าถึงระบบคลาวด์ได้ดีขึ้นในต้นทุนที่ถูกลง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการโยกย้ายข้อมูลและบริหารการทำงานระหว่างโมเดิร์นแอปพลิเคชันของวีเอ็มแวร์และบริการ VMware Cloud on AWS ได้เป็นอย่างดี
ลดภาระการทำงานด้วย Google Cloud VMware Engine: บริการเสริมที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการโซลูชันภายใต้ VMware Cloud Foundation stack ได้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่ VMware vSphere vCenter vSAN NSX-T และ โซลูชัน HCX สำหรับการทำ cloud migration – ในสภาพแวดล้อมเฉพาะบนโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ของ Google Cloud เพื่อรองรับเวิร์คโหลดงานการผลิตขององค์กร
เพิ่มความเร็วและความคล่องตัวสำหรับส่งมอบแอปพลิเคชันด้วยโซลูชัน Alibaba Cloud VMware: โซลูชันนี้พร้อมให้บริการแล้วในประเทศจีนและภูมิภาคฮ่องกง องค์กรสามารถขยายเวิร์คโหลดด้วย VMware-based on premises สำหรับองค์กรไปยัง Alibaba Cloud โดยไม่ต้องปรับสภาพแวดล้อมของพวกเขา พร้อมทั้งสามารถบริหารจัดการเวิร์คโฟลว์ในสภาพแวดล้อมของวีเอ็มแวร์ได้โดยไม่ทำให้ระบบเน็ตเวิร์กและซีเคียวริตี้หยุดชะงัก
ความสามารถของบริการ vRealize Automation Cloud ของ VMware: บริการนี้มีขึ้นในสิงคโปร์ซึ่งสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค โดยบริการนี้ช่วยให้การส่งแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ทำได้รวดเร็วมากขึ้น และสามารถจัดการไลฟ์ไซเคิลของบริการเหล่านี้บนคลาวด์ทุกรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ รวมทั้งเดินหน้าต่อยอดประสบการณ์ใช้งานคลาวด์ บน AWS Azure Google Cloud หรือ VMware Cloud on AWS เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
เอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “ในยุคที่มีการเกิดใหม่ของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เช่น 5G ปัญญาประดิษฐ์ และโมเดิร์นแอปพลิเคชัน โดยมีคลาวด์ทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเข้าถึงและกำลังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนร่วมกับอีโคซิสเต็ม อันช่วยจะสร้างความตื่นตาตื่นใจในนวัตกรรมให้กับประเทศไทย นอกจากความยืดหยุ่นและความคล่องตัวแล้ว องค์กรในประเทศไทยและภูมิภาคยังต้องการรักษาความมั่นคงในสภาพแวดล้อมแบบผสมผสานและแบบมัลติคลาวด์ ในขณะที่เราสร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ทโฟลิโอคลาวด์ของเรา เราสามารถช่วยให้องค์กรก้าวกระโดดนวัตกรรมปรับขนาดและปรับปรุงความคล่องตัวเพื่อให้มั่นใจในความต่อเนื่องในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”