Breaking News
Home / Business & Marketing / ซินเน็คฯ พื้นฐานเด่น หลังไอทีบูม เปิดโปรเจ็กต์ SWOPMART รุกตลาด IT มือสอง

ซินเน็คฯ พื้นฐานเด่น หลังไอทีบูม เปิดโปรเจ็กต์ SWOPMART รุกตลาด IT มือสอง

ซินเน็คฯ โชว์กำไรเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้าอัพเดทแผนงานครึ่งปีหลัง และสตอรี่การเติบโตใหม่ๆ ล่าสุด จัดงานประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประจำไตรมาส 2/64 โบรกฯ ชี้ธุรกิจสินค้าไอทีและเทคโนโลยียังเติบโตต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดตลาดขายสินค้าไอทีมือสอง เปิดโปรเจ็กต์ SWOPMART ผ่านการลงทุนของบริษัทย่อย โดย บทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที ระบุ SYNEX แนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายที่ 36.00 บาท ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 27.80 บาท

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ในฐานะผู้นำด้าน IT Ecosystem กล่าวว่า ภาพรวมกำลังซื้อสินค้าไอทีและสินค้าเทคโนโลยียังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนธุรกิจหลักให้เติบโต ควบคู่แผนขยายขอบเขตการให้บริการด้านไอทีร่วมกับพันธมิตร โดยจะเริ่มเห็นแผนขยายธุรกิจโดยการจับมือพันธมิตรผ่าน บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด (Synnex Incubation) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างการเติบโตที่แตกต่างไปจากธุรกิจเดิมของซินเน็คฯ โดย Synnex Incubation เปิดตัวธุรกิจแรกที่เข้าลงทุน คือ บริษัท สวอป มาร์ท จำกัด (SWOPMART) ประกอบกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รุกตลาดไอทีมือสอง นอกจากนี้ ได้ทำการเปิดรับข้อเสนอในการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือธุรกิจที่ต้องการขยายกิจการรายอื่นๆ ต่อเนื่อง             

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ประกาศ ผลประกอบการไตรมาส 2/64 มีกำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 211 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 27% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 8,382 ล้านบาท และภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ร้อยละ 4.8 จากความต้องการสินค้า IT เพิ่มขึ้น สนับสนุนงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ซินเน็คฯ มีกำไรสุทธิ 396 ล้านบาท เติบโตถึง 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้รวมทำได้ 17,018 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6% แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซินเน็คฯ ยังคงสามารถตอบสนองความต้องการสินค้าเทคโนโลยีไปยังผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม

ด้าน บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ (เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564) ซินเน็คฯ เริ่มรุกตลาดขายสินค้า IT มือสอง ควบคู่ยอดขายสินค้า IT ที่ยังสูง ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 36.00 บาท อิง 2022E PER 32x (+3SD above 5-yr average PER) เรามองเป็นบวกมากขึ้นต่อการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (18 ส.ค.) ด้วยประเด็นสำคัญดังนี้ เห็นความชัดเจนของการลงทุน Synnex Incubation ที่จะเริ่มดำเนินงานใน SWOPMART ที่ให้บริการ marketplace สำหรับการขายสินค้า IT มือสองระดับ C2C ซึ่งจะคิดค่าบริการประมาณ 5-7% ของราคาขาย ขณะที่ GPM จะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสินค้า House brand

ด้านยอดขายสินค้า IT ที่จะยังอยู่ในระดับสูง เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2021E/2022E ที่ 762 ล้านบาท (+37% YoY) และ 952 ล้านบาท (+25% YoY) จากรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นปีละ +16 – 19% YoY หนุนโดยความต้องการสินค้า IT ที่เพิ่มขึ้นในระดับ end user และองค์กร เพื่อรองรับการทำงาน work from anywhere และเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามากขึ้นทั้ง 5G และ WiFi 6 การเพิ่มสินค้า และพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง เช่น Realme, Nintendo Switch, Residential EV charger กับ DELTA และ SABUY เช่น การขายสินค้าผ่านตู้ Vending machine

นอกจากนี้ เริ่มรับรู้รายได้จาก SWOPMART ตั้งแต่ปลาย 3Q21E และ GPM จะปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ในระดับสูงที่ 4.6% / 4.7% จากความต้องการสินค้า IT ที่สูงกว่า Supply สินค้า และการเพิ่มสัดส่วนรายได้ non-mobile และHouse brand ที่มี GPM สูง

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564) คงคําแนะนํา “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ที่ 27.80 บาทต่อหุ้น มอง SYNEX ขายดีกว่าที่คิด ถึงเวลารุกตลาดมือสอง สรุปสาระสําคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก จากยอดขาย อัตรากําไรขั้นต้นที่ขยายตัว และการลดต้นทุนการเงิน แนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นยังแข็งแกร่ง ยอดขายเดือนก.ค.64 ทําได้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 1H64 แม้ได้รับผลกระทบจากการปิดร้าน Modern Trade ในห้าง แต่ร้านค้านอกห้างขายดีขึ้น บริษัทฯ คาด รายได้ทั้งปีจะยังทําได้ตามเป้า คาดการณ์ครึ่งปีหลังเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรก จาก High season ส่วนหนึ่ง มาจากภาวะขาดแคลนสินค้าเริ่มดีขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม Printer และ Notebook ซึ่งสอดคล้องกับระดับ สินค้าคงเหลือในงบการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 พันล้านบาทใน 2Q64 จาก 2.3 พันล้านบาทใน 1Q64

สำหรับ บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จํากัด ได้เข้าลงทุนในบริษัท SWOPMART โดย SYNEX ถือ 60% และ Partner ถือ 40% เงินลงทุนเริ่มต้นอยู่ในกรอบไม่เกิน 100 ล้านบาท เฉพาะส่วนของ SYNEX บริษัท SWOPMART ทําธุรกิจ marketplace สําหรับสินค้า IT มือสอง เน้นนําเสนอลูกค้า C2C โดย SWOPMART จะเก็บค่าธรรมเนียม 5% ของ GMV สําหรับสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและออก Certified จาก SYNEX และเก็บค่าธรรมเนียม 7% ของ GMV หากต้องการให้สินค้าผ่านการตรวจสอบ คุณภาพและออก Certificated จาก SYNNEX โดย SWOPMART จะเริ่มให้บริการใน 1-2 เดือนจากนี้

ปัจจุบันมูลค่าตลาด IT มือสองอยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นตลาดที่ยังไม่มีผู้นําในตลาด บริษัทฯ คาดหวัง Market share 50% ภายใน 3 ปี หรือหมายถึงรายได้ที่ราว 1,250 ล้านบาท (25,000×5%) และมีกําไรราว 250 ล้านบาท (หรือราว 1% ของ GMV) หรือคิดเป็น 150 ล้านบาท เฉพาะส่วนของ SYNEX ถือว่ามีนัยสําคัญหากทําได้สําเร็จ จุดที่น่าสนใจคือมูลค่าของ Market Place ไม่ได้จบที่เพียงส่วนแบ่งกําไร แต่มาจาก platform value ที่เกิดจากคนเข้ามาใช้ระบบมากขึ้น ต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นได้อีกมาก (SYNEX มีธุรกิจปล่อยสิน

Check Also

เอปสันเร่งเครื่องรุกตลาดโฮมโปรเจคเตอร์ หลังแอปพลิเคชันความบันเทิงบูม

เอปสันเดินหน้าสร้างสถิติครองเจ้าตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลกนาน 23 ปี ทั้งยังกวาดส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทย 54% รักษาแชมป์ในไตรมาสแรกปีนี้ พร้อมประกาศรุกหนักตลาดโฮมโปรเจคเตอร์ หลังแอปพลิเคชันด้านสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนท์เติบโตอย่างมากทั้งในกลุ่มธุรกิจและสำหรับความบันเทิงภายในบ้าน ล่าสุดเอปสัน ประเทศไทย จัดงาน Epson Ultra Projectors Experience Day ณ Solution Center อาคารปัน ระดมทัพเลเซอร์โปรเจคเตอร์หลากซีรีส์อวดศักยภาพสร้างประสบการณ์ความบันเทิงแบบสุดพิเศษ พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มโฮมโปรเจคเตอร์และโปรเจคเตอร์ความสว่างสูง