Breaking News
Home / Finance / LH Bank จับมือ MTL ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ที่ให้มากกว่าดอกเบี้ย ที่คุ้มครองโรคร้ายสูงสุด 30 โรค (LHB Health Care Savings)

LH Bank จับมือ MTL ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ที่ให้มากกว่าดอกเบี้ย ที่คุ้มครองโรคร้ายสูงสุด 30 โรค (LHB Health Care Savings)

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่าจากข้อมูลปัจจุบันพบว่า คนไทยมีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดจาก 6 โรคร้าย อาทิ โรคมะเร็งและเนื้องอก โรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคไต ซึ่งส่วนใหญ่มีผลมาจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต

ธนาคารจึงออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ที่ให้มากกว่าดอกเบี้ยที่คุ้มครองโรคร้ายสูงสุดมากถึง 30 โรคร้าย ที่ตอบโจทย์การออมเงินและการดูแลสุขภาพ เพิ่มความอุ่นใจ หมดความกังวลหากตรวจพบโรคร้าย ซึ่งความโดดเด่นของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองโรคร้าย “LHB Health Care Savings” คือ เจอ จ่าย จริง โดยลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 30 โรคร้าย โดยมีวงเงินคุ้มครองสูงสุด 1 ล้านบาท โดยลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย และยังได้รับดอกเบี้ยทุกเดือน อัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อปี ฝาก ถอน โอน จ่าย สะดวก ยิ่งฝากมากยิ่งรับความคุ้มครองมาก

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองโรคร้าย “LHB Health Care Savings” สำหรับบุคคลธรรมดา ที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 65 ปี สามารถเปิดบัญชีได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ฝากขั้นต่ำเพียง 100,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนเงินฝากสูงสุด แต่วงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท รับประกันภัยโดยบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเชื่อว่า “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองโรคร้าย (LHB Health Care Savings)” ที่ธนาคารได้คัดสรรมาเป็นพิเศษนี้จะเป็นตัวเลือกที่ดีและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ให้สามารถวางแผนจัดการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพได้ในอนาคต

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิต รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยกระดับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์  ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองโรคร้าย “LHB Health Care Savings” ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการสร้างความมั่งคั่งจากการออมเงิน ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต  และการเข้าถึงความคุ้มครอง      ด้านสุขภาพจากโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมถึง 30 โรค ซึ่งช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า หากเกิดเหตุไม่คาดฝันก็สามารถรับเงินก้อนเพื่อดูแลรักษาสุขภาพได้โดยไม่กระทบเงินออม โดยความคุ้มครอง 30 โรคร้ายแรงนี้ ครอบคลุมทั้งโรคมะเร็งระยะลุกลาม โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง  โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง  โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตันโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย และโรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรงหรือโรคปอดระยะสุดท้าย เป็นต้น

นอกจากนี้ ลูกค้าผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองโรคร้าย “LHB Health Care Savings”  ยังสามารถเข้าถึงนวัตกรรมด้านการบริการของเมืองไทยประกันชีวิต เช่น MTL Click  Application ที่รวบรวมทุกบริการของเมืองไทยประกันชีวิต ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ ในเรื่องการเช็คกรมธรรม์เพื่อดูผลประโยชน์และความคุ้มครอง รวมถึงบริการ MTL Health Buddy ผู้ช่วยด้านสุขภาพครบวงจร สามารถปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญ แพทย์เฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค การทำนัดหมายติดต่อเข้ารับการรักษาผ่านเครือข่ายโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพียงโทร. 0 2290 2424 กด 3 และ MTL Fit  Application ตัวช่วยด้านการออกกำลังกายที่จะทำให้คุณรู้จักสุขภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆ คนในสังคม (Democratizing Insurance)  ด้วยการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างได้อย่างเข้าใจ และเข้าถึงได้จริง เพื่อเป็นส่วนช่วยให้ทุกคนได้มีหลักประกันที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความสุข และรอยยิ้มแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย

ลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชี เงินฝากออมทรัพย์คุ้มครองโรคร้าย “LHB Health Care Savings” ได้แล้วที่ LH Bank ทุกสาขาทั่วประเทศ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lhbank.co.th หรือ โทร.1327

Check Also

AIS ประสบความสำเร็จการขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย

“บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “AIS”)  ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นและจองซื้อหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนที่บริษัทเสนอขายในครั้งนี้จำนวน 5 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.54% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 4 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.74% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.76% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.92% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.22% ต่อปี  โดยเปิดจองซื้อในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ AAA(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  ส่งผลให้ยอดจองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวนตามเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท