Breaking News
Home / Industries / HARMAN ประกาศครั้งสำคัญ เตรียมเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทย

HARMAN ประกาศครั้งสำคัญ เตรียมเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทย

HARMAN บริษัทด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ในเครือ Samsung Electronics Co., Ltd. จัดพิธีเฉลิมฉลองเพื่อเริ่มการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งจะมีขนาดประมาณ 47,000 ตารางเมตร โดยตั้งอยู่บริเวณพื้นที่แหลมฉบัง ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 125 กิโลเมตร ซึ่งนับเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทย และอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตยานยนต์และเทคโนโลยีของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมาย

โรงงานผลิตแห่งใหม่นี้ จะสนับสนุนการผลิตโซลูชันสำหรับแผนกยานยนต์เป็นหลัก ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านอื่นๆ สำหรับธุรกิจยานยนต์ ของ HARMAN โดย HARMAN เป็นผู้นำระดับโลก ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อยานยนต์ที่พร้อมใช้งานบนท้องถนน จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น Augmented Reality (AR) และ Artificial Intelligence (AI) เพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านยานยนต์ให้กับผู้บริโภค ซึ่งโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทยนี้เอง จะเข้ามาช่วยบริษัทในการเพิ่มกำลังการผลิต และสนับสนุนพันธกิจและความมุ่งมั่นนี้ของ HARMAN ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณ Chistian Sobottka ตำแหน่ง President ของ HARMAN Automotive พร้อมด้วยผู้นำอาวุสโสของ HARMAN เข้าร่วมพิธีเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นการก่อสร้างโรงงานใหม่แห่งนี้ ร่วมกับ คุณ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ พร้อมทั้งพูดคุยเกี่ยวกับประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  นวัตกรรม และการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการเติบโต ภายหลังการเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ของ HARMAN

“ที่ HARMAN เรามุ่งมั่นสร้างความมั่นใจ ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่พร้อมใช้งานบนท้องถนน ตามความต้องการของพันธมิตรทางธุรกิจของเรา พร้อมส่งมอบประสบการณ์บนยานพาหนะที่น่าประทับใจให้กับผู้บริโภค” คุณ Chistian กล่าว “การขยายฐานการผลิตของเราในประเทศไทยนั้น มีผลดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในด้านของบุคลากรที่มีความสามารถ หรือการอยู่ใกล้กับพันธมิตร OEM โดยนอกเหนือจากประสบการณ์ด้านการผลิตที่สามารถสนับสนุนทั้งภาคยานยนต์และเทคโนโลยีแล้วนั้น ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญทั้งสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งจากการเพิ่มการลงทุนเพื่อสนับสนุนด้านการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศไทย และความจำเป็นของการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็วนี้เอง ทำให้เราไม่ลังเลที่จะขยายฐานการผลิตของเรามายังประเทศไทย”

“การตัดสินใจของ HARMAN ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในแหลมฉบังจะสร้างประโยชน์มากมายให้กับหลายฝ่าย” คุณ ดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว “อีกทั้งการลงทุนในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการสร้างห่วงโซ่อุปทานยานยนต์แห่งอนาคตที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้โรงงานแห่งใหม่ของ HARMAN ยังจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยการฝึกอบรมแรงงาน รวมถึงการสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่ให้กับแรงงานในพื้นที่กว่า 1,200 คน”

ครั้งนี้ HARMAN ได้ร่วมมือกับ ESR Group Limited (“ESR”)  ผู้บริหารจัดการทรัพย์สินและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในการออกแบบและสร้างโรงงาน และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศไทย  ESR ได้ออกแบบโรงงานของ HARMAN ตามมาตรฐานของ FM Global ทั้งในด้านความปลอดภัยและการพร้อมรับความเสี่ยง และตั้งเป้าที่จะได้รับการรับรองในระดับ Gold ตามมาตรฐาน Leadership in Energy and Environmental Design (LEED)  ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานรับรองอาคารเขียวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน

HARMAN มีโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศบราซิล จีน ฮังการี อินเดีย และเม็กซิโก ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 12,000 คนที่พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้าในราคา คุณภาพ และบริการการจัดส่งที่เหมาะสม โดยประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตแห่งใหม่ของ HARMAN เนื่องจากมีปริมาณการผลิตยานยนต์สูง และเป็นที่ตั้งของพันธมิตร OEM ที่สำคัญมากมาย รวมถึงเต็มไปด้วยบุคคลากรที่มีความสามารถในด้านการผลิตเทคโนโลยี แม้แผนการก่อสร้างโรงงานคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 แต่ HARMAN ได้วางแผนเริ่มว่าจ้างพนักงานในประเทศบางตำแหน่งภายในปลายปี 2024 นี้  และตั้งเป้าว่าจ้างพนักงานเบื้องต้นประมาณ 1,200 คน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการในปีถัดไป

Check Also

 ไปรษณีย์ไทยเดินหน้าขยายจุดบริการส่งของควบคุมอุณหภูมิ “ฟิ้วซ์โพสต์” ผ่านเครือข่ายพี่ไปรฯ 25 แห่ง การันตีของสดเหมือนตอนส่ง ทั่วถึงทุกภูมิภาค

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าขยายจุดให้บริการส่งของแช่เย็นและแช่แข็งแบบควบคุมอุณหภูมิ ภายใต้บริการ “FUZE POST (ฟิ้วซ์โพสต์)” ผ่านเครือข่ายของไปรษณีย์ไทย ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ล่าสุดนี้ขยายจุดให้บริการรับฝากโดยเพิ่มจุดบริการฟิ้วซ์โพสต์ อีกจำนวน 25 แห่ง พร้อมนำส่งอาหารสด ของแช่แข็งและผลไม้สดทั่วไทย เริ่มให้บริการแล้ววันนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandpost.co.th