Breaking News
Home / Tech Insight / เอ็นทีที คอม จัดชุด EDR ป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง พร้อมหน่วย AI วิเคราะห์พฤติกรรมการโจมตี

เอ็นทีที คอม จัดชุด EDR ป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง พร้อมหน่วย AI วิเคราะห์พฤติกรรมการโจมตี

NTT

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด (เอ็นทีที คอม) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นและการสื่อสารระหว่างประเทศในเครือของเอ็นทีทีกรุ๊ป (TYO: 9432) นำเสนอโซลูชั่นปกป้องภัยบนไซเบอร์ในองค์กรขั้นสูง Endpoint Detection & Response (EDR)

พร้อมกับใช้นวัตกรรม AI วิเคราะห์ร่วมกับการบริหารจัดการ Big Data และตรวจจับพฤติกรรมการใช้งานที่อาจเปิดโอกาสให้ถูกโจมตี และชี้จุดที่เป็นช่องโหว่การโจมตีได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถใช้งานร่วมกับแอนตี้ไวรัสได้

นาย นายศานิต เกษมสันต์ ณ อยุธยา รองประธานแผนกผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัท เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ปัจจุบันภัยในโลกไซเบอร์เกิดขึ้นจากหลายรูปแบบ โดยรูปแบบการโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากไวรัสและมัลแวร์ ซึ่งรูปแบบและวิธีการโจมตีมีความซับซ้อนและตรวจสอบได้ยากขึ้น หน่วยงานและองค์กรธุรกิจต่างๆ จึงจำเป็นต้องหาเครื่องมือในการดูแลระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแอนตี้ไวรัสทั่วไป เพื่อที่จะช่วยให้การตรวจสอบมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น

โดยเอ็นทีที คอม ได้จัดรูปแบบบริการที่จะช่วยตรวจสอบและตอบสนองต่อภัยคุกคามขั้นสูง ด้วยโซลูชั่น Endpoint Detection & Response (EDR) โดยโซลูชั่นดังกล่าวได้นำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence)  มาใช้ร่วมกับการบริหารจัดการ Big Data เพื่อเข้ามาเพิ่มศักยภาพการจัดการดูแลระบบแบบเรียลไทม์ โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรูปแบบหรือพันธุกรรม(Digital DNA) ของไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ ที่เคยมีมา ตลอดจนทำการวิเคราะห์พฤติกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตี

เมื่อระบบ EDR ตรวจสอบพบความสุ่มเสี่ยง จะทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ดูแลทันที ซึ่งผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าระดับการป้องกันได้ว่าต้องการให้แจ้งเตือนก่อน หรือจะให้กำจัดไวรัสและมัลแวร์ได้ทันทีที่ตรวจพบ รวมทั้งทำการยับยั้งป้องกันเพื่อตรวจหาสาเหตุ โดยระบบจะแสดงรายงานการถูกโจมตีหรือการเข้าถึงของไวรัส

รวมถึงการสืบค้นไปยังต้นตอหรือแหล่งที่มาของไวรัสและมัลแวร์ที่ตรวจพบได้ว่าแฝงตัวเข้ามายังจุดใด และสามารถชี้จุดที่เป็นช่องโหว่การโจมตีได้อย่างแม่นยำ โดย EDR มีความชาญฉลาดในการจดจำและเรียนรู้ถึงพฤติกรรมของรูปแบบการโจมตีใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา รวมถึงมีการอัพเดทรูปแบบและวิธีการโจมตีของไวรัสและมัลแวร์จากทั่วโลก ซึ่งเหมาะกับธุรกิจทุกขนาด และทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

โดยสามารถทำงานควบคู่ร่วมกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสเดิมของผู้ใช้งาน และใช้ได้กับระบบปฏิบัติการ Windows, และ Mac OS โดยผู้ใช้บริการจะได้รับชุด EDR 1 ไลเซนท์ต่อ 1 เครื่อง รองรับได้กับสเปกเครื่อง ตั้งแต่ CPU 2cores และ RAM ขนาด 2GB เป็นต้นไป และให้การดูแลเป็นแบบปีต่อปี พร้อมทั้งบริการอบรมการใช้งานระบบและหน้าจอแสดงผลวิเคราะห์การใช้งาน (Dashboard)

 

Check Also

TERA เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Gen3 ที่สุดแห่งบริการคลาวด์โดยคนไทย พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้

บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ “TERA” เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Generation ที่ 3 (T.Cloud Gen3) ที่สุดแห่งบริการคลาวด์แบบอัจฉริยะของคนไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่องค์กรภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ต่อยอดสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจอย่างแท้จริง