Breaking News
Home / Life / Entertainment / อาร์ทีบีฯ เปิดตัวหูฟังเกมมิ่ง 2 รุ่นใหม่ จากแบรนด์ Audio-Technica ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ จากมอนสเตอร์ยอดฮิตจากซีรีย์เกม Monster Hunter

อาร์ทีบีฯ เปิดตัวหูฟังเกมมิ่ง 2 รุ่นใหม่ จากแบรนด์ Audio-Technica ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ จากมอนสเตอร์ยอดฮิตจากซีรีย์เกม Monster Hunter

บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า Gadget รายใหญ่ในประเทศไทย และเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เสริมภายใต้แบรนด์ Audio-Technica (ออดิโอ เทคนิก้า) แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เร่งเครื่องรุกตลาดต้นปี 2567 ด้วยการเปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมหูฟังเกมมิ่ง 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ ATH-GL3 ZIN และ ATH-GDL3 NAR 

โดยหูฟังทั้ง 2 รุ่นได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากเหล่ามอนสเตอร์ยอดฮิตจากซีรีย์เกม Monster Hunter ซึ่งทำยอดขายไปได้กว่า 90 ล้านชุดทั่วโลก โดยหูฟังทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นอยู่ที่ความเบาสบายและระบบเสียงที่มาจากการสะสมประสบการณ์ด้านเสียงอนาล็อกมากว่า 60 ปี พร้อมโททัลลุคและสีสันที่จะช่วยเติมเต็มบรรยากาศและอรรถรสของการเล่นเกมให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

Audio-Technica ATH-GL3 ZIN หูฟังครอบหูที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Zinogre ซึ่งเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ยอดฮิตจากเกม Monster Hunter มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำหนักเบาเพียง 230 กรัม ทำให้สามารถใส่เล่นเกมได้อย่างสบายตลอดทั้งวันโดยไม่เจ็บหู ด้วยดีไซน์แบบ Closed-back ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกและยังช่วยให้แยกทิศทางของเสียงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการถ่ายทอดรายละเอียดเสียงที่คมชัดด้วยไดร์เวอร์ขนาด 45 มิลลิเมตร รวมถึงไมโครโฟนแบบบูมอาร์มที่ถอดออกได้ สามารถรับเสียงได้จากทุกทิศทางและสื่อสารกับเพื่อร่วมทีมได้อย่างชัดเจน มาพร้อมความสดใสของสีเขียวเทอร์ควอยซ์ที่ตัดกับสีเงินและสีครีมได้อย่างลงตัว โดยตัวเอียร์แพดและเฮดแพดสามารถถอดออกเพื่อเปลี่ยนได้ รวมถึงปุ่มควบคุมการใช้งานบนหูฟังด้านซ้าย จะช่วยควบคุมการรับสาย ปรับระดับเสียง และเปิด/ปิดเสียงไมโครโฟนได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งยังรองรับการใช้งานกับ PC และเครื่องเล่นเกม Console เช่น PS5 และ Xbox Series X รวมถึงเกมมิ่งคอนโซลอื่นๆ นอกจากนี้หูฟังรุ่น ATH-GL3 ZIN ยังสามารถใช้สำหรับฟังเพลง รวมถึงใช้งานในรูปแบบ Monitor Headphones สำหรับตัดต่อหรือทำเพลงในแบบ Bedroom Studio ได้ด้วย วางจำหน่ายในราคา 5,990 บาท โดยภายในกล่องจะมีสติ๊กเกอร์ที่เป็น Limited Edition มาให้อีกด้วย

Audio-Technica ATH-GDL3 NAR เป็นหูฟังครอบหูที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Nargacuga อีกหนึ่งมอนสเตอร์ยอดฮิตจากซีรีย์เกม Monster Hunter มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำหนักที่เบาเพียง 220 กรัม ทำให้สามารถใส่เล่นเกมได้อย่างสบายตลอดทั้งวันโดยไม่เจ็บหู ด้วยดีไซน์แบบ Open-back จะช่วยให้ได้ยินเสียงจากภายนอกและยังช่วยให้ได้ยินเสียงและเอฟเฟกต์ต่างๆได้รอบทิศทาง ทำให้สามารถจับทิศทางคู่ต่อสู้และมอนสเตอร์ได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังมาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 45 มิลลิเมตร จะช่วยมอบเสียงที่คมชัดและมีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น พร้อมไมโครโฟนแบบบูมอาร์มที่ถอดได้ ทำให้สามารถรับเสียงได้จากทุกทิศทาง รวมถึงสามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างชัดเจน โดยตัวหูฟังมาในโทนสีดำตัดกับสีแดงและสีเงินได้อย่างลงตัว มาพร้อมเอียร์แพดและเฮดแพดที่สามารถถอกออกเพื่อเปลี่ยนได้ รวมถึงปุ่มควบคุมการใช้งานบนหูฟังด้านซ้ายที่ช่วยควบคุมการรับสาย ปรับระดับเสียง และเปิด/ปิดเสียงไมโครโฟนได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งยังรองรับการใช้งานกับ PC และเครื่องเล่นเกม Console เช่น PS5, Xbox Series X  และเกมมิ่งคอนโซลอื่นๆ นอกจากนี้  ATH-GDL3 NAR ยังสามารถใช้สำหรับฟังเพลง รวมถึงใช้งานในรูปแบบ Monitor Headphones สำหรับตัดต่อหรือทำเพลงในแบบ Bedroom Studio ได้ด้วย วางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท โดยภายในกล่องจะมีสติ๊กเกอร์ที่เป็น Limited Edition มาให้อีกด้วย

สำหรับคนรักการเล่นเกมที่กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งคุณภาพ สามารถหาซื้อและสัมผัสประสบการณ์เล่นเกมที่สนุกและเร้าใจกว่าเดิมจากสุดยอดนวัตกรรมหูฟัง ATH-GL3 ZIN และ ATG-GDL3 NAR จากแบรนด์ Audio Technica ได้แล้ววันนี้ที่ ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Shopee by Audio-Technica Flagship Store, Lazada by Audio-Technica Flagship Store, ร้านค้า RTB และตัวแทนจำหน่ายทั่วไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเพจ Facebook: Audio – Technica Thailand

Check Also

ซัมซุงชวนชมภาพยนตร์โฆษณาสั้นสุดทัชใจ “คิดถึงเท่าจักรวาล” ดึงอินไซต์ คิดถึง…แต่ไม่ถึง ผ่านแคมเปญ “Say it with Galaxy”

ซัมซุง ส่งภาพยนตร์โฆษณา “คิดถึงเท่าจักรวาล” ดึงอินไซต์คนไทยที่คิดถึง…แต่ไม่ถึง ถ่ายทอดความรู้สึกของผู้คนที่เคยพลาดโอกาสในการบอกเล่าความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนสำคัญ ชวนมาบอกความคิดถึงให้ไปถึง ในแคมเปญ “Say it with Galaxy” ที่เปลี่ยนพื้นที่ Central Court (ลานลิฟต์แก้ว) เซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็น จักรวาลแห่งความคิดถึง