Breaking News
Home / Auto & Motor / สลีค อีวี ดึงเทคโนโลยีจีนหนุนตั้งฐานผลิตในไทย ชูเป้าเป็นโรงงานผลิต และประกอบแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์อีวีครบวงจร

สลีค อีวี ดึงเทคโนโลยีจีนหนุนตั้งฐานผลิตในไทย ชูเป้าเป็นโรงงานผลิต และประกอบแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์อีวีครบวงจร

สลีค อีวี (SLEEK EV) เปิดแผนงานโซลูชันกระบวนการผลิต ประกอบชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์อีวีล้ำสมัย ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง โชว์แผนร่วมงานกลุ่มบริษัทชั้นนำและเทคโนโลยีการผลิต Mass Production จากประเทศจีน ระบบการขับเคลื่อนออกแบบโดยคนไทยและสิงคโปร์ชูเป้าเป็นโรงงานผลิต และประกอบแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์อีวีครบวงจร ปรับต้นทุนการผลิต สร้างโอกาสยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เตรียมจัดตั้งโรงงาผลิตแบตเตอรี่ครบวงจรภายใน 3 ปี พร้อมรับสิทธิ์การส่งเสริมการส่งออก BOI

สลีค อีวี ผู้นำเทคโนโลยีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติ ไทย-สิงคโปร์ เตรียมทะยานสู่ความเป็นผู้นำในตลาดมอเตอร์ไซค์อีวี ภายใต้การนำเทคโนโลยีการผลิต จากประเทศจีนมาใช้ในการผลิตโครงสร้างมอเตอร์ไซค์ ประกอบกับเทคโนโลยีชุดขับเคลื่อนที่ออกแบบโดยทีมวิศวกรคนไทยและสิงคโปร์ รองรับรูปแบบการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแนวทางต่อพลังงานทางเลือกเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ด้วยนวัตกรรมชั้นสูง และเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อร่วมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยตั้งเป้าจัดตั้งโรงงานผลิต ประกอบชิ้นส่วนให้มีศักยภาพสูงรองรับความต้องการผู้บริโภคในประเทศ รวมไปถึงการส่งออกในอนาคต ทั้งนี้หลังได้รับการส่งเสริมเต็มรูปแบบจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) บริษัทยังเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตรวมไปถึงโครงการจัดตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี อีกด้วย

กันตินันท์ ตันวีนุกูล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สลีค อีวี จำกัด กล่าวว่า เพื่อตอบรับการแข่งขันดุเดือดในตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปัจจุบัน บริษัทเร่งแผนงานเพื่อสร้างศักยภาพรอบด้านเพื่อการแข่งขันครั้งนี้สลีค อีวีคว้าโอกาสสำคัญจากกลุ่มพันธมิตรและเทคโนโลยีจากประเทศจีน การเข้ามารองรับการทำงานในด้านการทำโครงสร้างของรถมอเตอร์ไซค์ เสริมด้วยองค์ความรู้ด้านการผลิต Massive Production โดยมีมูลค่าการลงทุนราว 4,500 ล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี จัดตั้งโรงงานสำหรับกำลังการผลิตโครงสร้างมอเตอร์ไซค์อีวี 2,000 คันต่อเดือน นำเอาเทคโนโลยี โมเดลการผลิตเทียบเท่ากับมาตรฐานระดับสากล และ ตั้งเป้าเป็นโรงงานผลิตที่ล้ำสมัย ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง ทั้งนี้ปัจจัยทางด้านการผลิต และสิทธิประโยชน์ BOI ที่บริษัทได้รับเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมายังส่งผลต่อต้นทุน และราคาจัดจำหน่ายที่สามารถปรับลดลงเพื่อผู้บริโภค อีกทั้งการสนับสนุนที่ได้รับมายังเป็นปัจจัยต่อการแข่งขันกับคู่แข่งทั้งในประเทศและทั่วโลกในอนาคตอีกด้วย

สำหรับตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปัจจุบันมียอดจดทะเบียนสะสมรวม 25,000 คัน คาดปีหน้าโตอีกราว 100% จากผู้ประกอบการณ์และผู้นำเข้าจากต่างประเทศที่มีมากกว่า 20 รายในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลาย สลีค อีวีจึงชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพของแบตเตอร์รี่ และชุดขับเคลื่อนใหม่ SLEEK Power Train 1.0 มีการรันตีแบตเตอรี่ อายุการใช้งาน 5 ปี หรือต่อการชาร์ต 2,000 ครั้ง ที่จะมีการประกาศการจับมือกับบริษัทแบตเตอรี่ระดับโลกในเร็วๆนี้ และเป็นผู้จัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพียงรายเดียวที่มีการบริการตรวจเช็คระยะการขับขี่ ซึ่งจะสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และเตรียมขยายครบทุกจังหวัด 77 โชว์รูมและศูนย์บริการในปลายปีหน้า

“สลีค อีวี ตั้งเป้ายอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าภายในปี 2569 พร้อมด้วยกำลังการผลิตราว 2,000 คันต่อเดือน ขยายตลาดและการลงทุนไปยังประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย พร้อมอัตราการเติบโต100% ต่อปี รวมไปถึงการต่อยอดการเติบโตธุรกิจด้วยการ จับมือพาร์ทเนอร์ที่เป็นธนาคารกรุงศรีและกลุ่มบริษัทในเครือ PTT OR ทั้งนี้ทางด้านสลีค อีวี และผู้ร่วมทุนสิงคโปร์จะมีบทบาทในการการเติบโตและสร้างมาตรฐานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทย” กันตินันท์ กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.sleekev.com , www.facebook.com/sleekelectricvehicle/

Check Also

เอ็มจี เผยยอด NEW MG4 ELECTRIC ช่วงไตรมาสแรก โตขึ้น 45% พร้อมเดินหน้าส่งมอบให้กับคนไทยต่อเนื่องตลอดปี

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยยอดขายในไตรมาสแรกของปี โดย NEW MG4 ELECTRIC ขึ้นแท่นรถอีวียอดนิยมในประเทศไทยคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายสะสมทั่วโลก ณ ปัจจุบันมากกว่า 180,000 คัน ตอกย้ำการเป็นรถแฮทช์แบคอีวีรุ่นยอดนิยมทั่วโลก โดย เอ็มจี ได้นำรถรุ่นนี้เข้ามาผลิตในประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคสามารถ เป็นเจ้าของยนตรกรรมคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย