Breaking News
Home / Life / Acer Medical Inc. ร่วมกับ 4 โรงพยาบาล ทดลองใช้งาน Verisee DR ซอฟต์แวร์ วินิจฉัยภาวะเสี่ยงของโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา

Acer Medical Inc. ร่วมกับ 4 โรงพยาบาล ทดลองใช้งาน Verisee DR ซอฟต์แวร์ วินิจฉัยภาวะเสี่ยงของโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา

บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ร่วมขับเคลื่อนและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ ด้วยการนำ Verisee DR  ซอฟต์แวร์ จาก Acer Medical Inc.  เข้ามาเพื่อช่วยในการคัดกรองผู้ป่วยที่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์แม้ในพื้นที่ห่างไกล และยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์สู่ Digital Healthcare  โดย Verisee DR สามารถตรวจจับและวิเคราะห์โรคได้จากภาพถ่ายจอประสาทตาแบบเรียลไทม์ แสดงผลลัพธ์ใน 30 วินาทีหลังอัพโหลดภาพ ด้วยความแม่นยำถึง 93%

Verisee DR คือซอฟต์แวร์ประสิทธิภาพสูง ตัวช่วยวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยการนำภาพถ่ายจอประสาทตา (Fundus Image) มาประมวลผลด้วยซอฟแวร์ VeriSee DR ที่ติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมต่อกับกล้องถ่ายภาพจอประสาทตา (Fundus Camera) ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านเทคนิคการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ส่งผลให้ VeriSee DR มีผลการวินิจฉัยที่แม่นยำระดับใกล้เคียงกับจักษุแพทย์ถึง 93% และยังสามารถประมวลและวิเคราะห์ผลจากภาพถ่ายจอประสาทตาโดยไม่ต้องเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้สามารถวินิจฉัยเบื้องต้นได้ทั้งจากสถานพยาบาลในระดับปฐมภูมิไปจนถึงหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 

ข้อมูลจากรายงานสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ประเทศไทยพบอุบัติการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี ในปี พ.ศ. 2565 มีผู้ป่วยโรคเบาหวานสะสมจำนวน 3.3 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2564 มากถึง 1.5 แสนคน สำหรับการคัดกรองผู้ป่วยรายใหม่ในปี 2566 พบว่าการคัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ยังไม่ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานมากถึง 5 ล้านคนจากเป้าหมายทั่วประเทศ 22 ล้านคน

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันแม้จะก้าวหน้าไปมาก แต่การบริการทางการแพทย์ยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร ทั้งปัญหาการขาดแคลนแพทย์ ภาวะคนไข้ที่ล้นมือ ความห่างไกลของพื้นที่ในการเข้ารับบริการ เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านั้น  Acer Medical Inc. ใช้ AI ในการช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ Verisee DR มาตั้งแต่ปี 2019 โดยเริ่มใช้งานจริงในโรงพยาบาลที่ประเทศไต้หวัน

ด้วยความสำเร็จในประเทศไต้หวัน เอเซอร์ได้นำ Verisee DR เข้ามาทดลองใช้งานในประเทศไทยภายใต้ “โครงการความร่วมมือศึกษาปัญญาประดิษฐ์เพื่อการวินิจฉัยภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา”  โดยร่วมกับ 4 โรงพยาบาลได้แก่ โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จ. ปัตตานี, โรงพยาบาลแม่แตง จ. เชียงใหม่ และโรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อการตรวจวิเคราะห์อาการภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตาในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการรอตรวจกับแพทย์ผู้ชำนาญการโดยตรง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนบุคลากร

Verisee DR ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถตรวจคัดกรองผู้ป่วยได้ครอบคลุมมากขึ้นจากการตรวจผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล รวมถึงการออกให้บริการเคลื่อนที่ ทำให้สามารถส่งต่อผู้ป่วยที่มีโรคอยู่ในระดับที่ต้องการการรักษาให้แก่จักษุแพทย์ ให้คำแนะนำแนวทางในการปฏิบัติตนแก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคแต่ยังไม่ถึงระดับที่ต้องรักษาโดยจักษุแพทย์เพื่อลด / ป้องกันการเป็นมากขึ้น และยังช่วยลดอัตราการสูญเสียการมองเห็นด้วยการเข้าสู่ระบบการรักษาตั้งแต่ระยะแรกของโรคได้อย่างทันเวลา

ด้วยโครงการนำร่องนี้ เอเซอร์มุ่งหวังที่จะนำนวัตกรรม Verisee DR ให้เกิดการยอมรับและใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อ Digital Healthcare ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ  และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในฐานะผู้พัฒนานวัตกรรมด้วยปัญญาประดิษฐ์ รังสรรค์บริการ สังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

Check Also

สจล. เปิดเวทีแข่งขันนวัตกรรมในงาน KMITL Future Innovator 2024ขับเคลื่อนชุมชนและสังคมสู่ความยั่งยืน

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเปิดงาน KMITL Future Innovator 2024 ธีม “นวัตกรรมขับเคลื่อนชุมชนและสังคมสู่ความยั่งยืน” Innovation Drives Communities and Society Towards Sustainability. ต่อยอดแนวคิดการพัฒนาสู่ความยั่งยืนจาก KMITL Innovation Expo 2024 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ในการพระราชทานโล่รางวัลชนะเลิศสำหรับกิจกรรมในงานด้วย